เปิดเผยผลวิจัยการลงทุน ใครชนะ ใครแพ้ในรอบ 10 ปี !!!!!!!!

784 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เปิดเผยผลวิจัยการลงทุน ใครชนะ ใครแพ้ในรอบ 10 ปี !!!!!!!!

 

รอบ 10 ปีที่ผ่านมา หุ้นในกลุ่มไหนเป็นผู้ชนะ
รอบ 10 ปีที่ผ่านมา หุ้นในกลุ่มไหนเป็นผู้แพ้
หุ้นจีน หรือ หุ้นอเมริกา
หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว หรือ หุ้นประเทศกำลังพัฒนา
คุณคิดว่าใครชนะ

เรามาดูผลสอบย้อนหลัง 10 ปี และ 5 ปีดังนี้ โดยผลทดสอบจะใช้ Global ETF เป็นตัวแทนของแต่ละกลุ่มดังนี้

 

1)  ผลตอบแทน vs ความผันผวน

1.1)  ทดสอบ 10 ปีตั้งแต่ 2013 – 2022

 

 

1.2)   ทดสอบ 5 ปีตั้งแต่ 2018 – 2022

 

  • ข้อสังเกต

    · ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และ มีสภาพคล่องสูง  กลุ่มอุตสาหกรรมพวก technology จะให้ผลตอบแทนสูง แต่ขณะเดียวกันก็มีความผันผวนสูงด้วยเช่นกันโดยกลุ่ม Semiconductor จะให้ผลตอบแทนดีที่สุดแต่ความผันผวนสูงที่สุด

    ·กลุ่มอุตสาหากรรม Healthcare และ  Consumer Staple เป็นอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนต่ำกว่า ตลาด (All World Index)  แต่ Healthcare มีผลตอบแทนสูงกว่าตลาด

    · กลุ่มดัชนีประเทศพัฒนาแล้ว (World Index)  จะทำผลงานได้ดีกว่า กลุ่มประเทศทั้งหมด(All World Index)

    · ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม Euro ได้ผลตอบแทน ใกล้เคียงกับ กลุ่ม Asia  แต่ในช่วง 5 ปีหลัง กลุ่ม Euro จะทำได้ดีกว่า

    ·  กลุ่มประเทศจีน A share จะทำผลตอบแทนได้ดีกว่า All share

 

2)    Sharpe Ratio vs Max Drawdown (ผลตอบแทนต่อความเสี่ยง vs ติดลบมากที่สุด)

2.1)  ทดสอบ 10 ปีตั้งแต่ 2013 – 2022

 

 

2.2)  ทดสอบ 5 ปีตั้งแต่ 2018 – 2022

 

  • ข้อสังเกต

    ·  แม้กลุ่มอุตสาหกรรม technology จะมี Sharpe Ratio (ผลตอบแทนต่อความเสี่ยง) ดีที่สุด แต่จะเจอกับ Max Drawdown (ติดลบมากทีสุด) เช่นเดียวกัน

    ·  อุตสาหกรรม Healthcare และ Consumer Staples ทั้ง มี Sharpe Ratio ดีกว่าตลาด (All World Index) และ Max Drawdown (ติดลบมากทีสุด) อีกด้วย 

    ·  กลุ่มประเทศจีน จะมี Max Drawdown ที่ลงลึกมาก ส่งผลให้กลุ่ม Asia มี Max Drawdown ที่ลงลึกกว่า  กลุ่ม Euro ไปด้วย เนื่องจากลุ่ม Chia All share ที่มี H Share อยู่ด้วย มี Max Drawdown ที่สูงมากที่สุด

    · ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา  มีปัญหาเงินเฟ้อ และ Covid-19 เกิดความไม่แน่นอนดังนั้น  กลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็น Defensive เช่น  Utilities Healthcare   Consumer Staples และ GOLD  จะมีความทนทานต่อสภาวะเหล่านั้น ทำให้เห็นได้ว่า จะมี Sharpe Ratio และ Max Drawdown ดีกว่าตลาด (All World Index)

    อย่างไรก็ตามนี้เป็นผลดำเนินการที่ผ่านมาแล้ว

    ไม่การันตีผลในอนาคต นักลงทุนควรจะพิจารณาก่อนการลงทุนเสมอ

 

บทความโดย

สมพจน์ พัดสุวรรณ AFPT / IP 
BMK Wealth Management "เคียงข้างทุกความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน"

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้