1259 จำนวนผู้เข้าชม |
5 วิธีการทำงานของ Wealth Advisor อเมริกาที่แตกต่างจากไทย
หลายปีที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเรียนรู้การทำงานของ Wealth Advisor จากอเมริกา วันนี้ผมขอแชร์สิ่งที่ได้เรียนรู้มา และกำลังนำมาใช้กับ BMK Wealth Advisor
1. กระบวนการนำเสนอ
จากรูป เป็นกระบวนการของ Savage and Associated ที่ใช้ทำงานกับลูกค้า เริ่มจากมีการพบประชุมเพื่อเข้าใจถึงเป้าหมายของลูกค้า เก็บข้อมูลด้านการเงินต่างๆ รวมทั้งการลงทุน เพื่อนำไปวิเคราะห์พอร์ตการลงทุน พร้อมกับเชื่อมโยงไปยังความเสี่ยงต่างๆ และนำเสนอต่อลูกค้า
จากรูป เป็นกระบวนการของ NorthStar Resource Group ที่ใช้ทำงานกับลูกค้าของพวกเขา แบ่งเป็น 3 ระดับคือ
ระดับที่ 1 Transaction จะเน้นสินค้าตอบโจทย์เฉพาะเรื่องที่ต้องการ โดยมีการชัดเจนว่ารายได้มาจากค่า Commission
ระดับที่ 2 Investment Advisory เป็นการจัดพอร์ตการลงทุน ตามเป้าหมายของการลงทุน รายได้มาจากค่าบริหารจัดการสินทรัพย์
ระดับที่ 3 Holistic Wealth Management เป็นการวางแผนแบบองค์รวม โดยจะคิดตามความซับซ้อนของแผนการเงิน
กระบวนการนำเสนอของ Wealth Advisor ของประเทศไทยก็เริ่มมีส่วนคล้ายกับของประเทศอเมริกามากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตอาจจะเหมือนกันก็ได้
2. แบ่งบริการตามกลุ่มลูกค้า
จากรูปเป็น Profitable Client Service Model ของ NorthStar Resource Group มีการแบ่งบริการตามกลุ่มลูกค้า เช่น A Client เป็นกลุ่มที่มีสินทรัพย์ขั้นต่ำ 1 ล้านดอลลาร์ จะมีการบริการมากที่สุดมีการพบกันถึง 3 ครั้งต่อปี มีบริการที่มากกว่า กลุ่ม B&C Client คือมีการวางแผน Trust หรือการวางแผนการบริจาคเพื่อจัดการภาษี เป็นต้น
การแบ่งบริการตามกลุ่มเป้าหมายสร้างความชัดเจนในกลุ่มลูกค้าที่ Wealth Advisor ต้องการ Focus รู้ว่าจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างไร รู้ว่าจะต้องการตลาดแบบไหน ตัวอย่างรูปข้างล่างจะระบุว่า ระดับลูกค้าแบบใดเหมาะกับบริการระดับใด
3. ทำงานเป็นทีม
จากรูป เป็นของ Savage and Associated เวลาไปหาลูกค้า Senior Wealth Advisor จะทำงานร่วมกับ Junior Wealth Advisor
ตามเอกสารแนะนำตัวของที่ปรึกษาของ NorthStar Resource Group จะมีทีมงานสนับสนุนที่ปรึกษา เช่น ทีมการลงทุน ทีมการวางแผนการเงิน และ ทีมประกันภัยต่างๆ จะเห็นได้ว่า ที่ปรึกษาการเงินของเขาไม่ได้ทำงานคนเดียว พวกเขาทำงานเป็นทีม
4. ค่าบริการนอกเหนือจากค่า Commission สินค้า
จากรูป เป็นแบ่งบริการของ NorthStar Resource Group โดยจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีบริการที่ไม่เหมือนกันซึ่งแน่นอนกลุ่ม Elite ย่อมเป็นกลุ่มที่มีสินทรัพย์สูงเนื่องจากค่าบริการขั้นต่ำ $3,600 ต่อปี
นอกจากมีค่าบริการวางแผนการเงินแล้ว ยังมีการจัดเก็บค่าบริหารจัดการสินทรัพย์ด้วย
ที่มา : AssetMark Data 2016
5. รายได้มาจากหลายทาง
จากความแตกต่างของ กระบวนการนำเสนอ แบ่งบริการตามกลุ่มลูกค้า และค่าบริการนอกจากค่า Commission จากสินค้า ทำให้รายได้ของ Wealth Advisor มาจากหลากหลายทาง ขอยกตัวอย่างรายได้ของ Wealth Advisor ของ NorthStar Resource Group 2 ท่านนี้
จากตัวอย่างตามรูปข้างบนจะเห็นได้ว่า Wealth Advisor ของอเมริกามีรายได้หลากหลายทาง หลักๆ ประกอบด้วยสัดส่วนใหญ่ๆ ดังนี้
1) Investment ค่าบริหารจัดการพอร์ตลงทุน
2) Finance Advice ค่าบริหารแผนการเงิน
3) Insurance รายได้ประกันชีวิต (Life Insurance + Disability)
จะเห็นว่าสัดส่วนทั้ง 3 จะใกล้เคียงกัน สร้างความสมดุลของรายได้
BMK Wealth Management จะเป็นพันธมิตรที่มาช่วยที่ปรึกษาการเงิน ในด้าน Investment Planning เติบโตเคียงข้างอย่างมั่งคั่งและยั่งยืนผ่านการจัดพอร์ตการลงทุนที่ดี และมีมืออาชีพช่วยดูแล ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกมิติ
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่อยากจะผันตัวเป็นที่ปรึกษาการเงิน ให้ BMK Wealth Management เป็นพันธมิตรการลงทุน เพื่อนคู่คิดเคียงข้าง คุณสามารถลงทะเบียนได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้
https://forms.gle/49YxqcvfPQkJGwHG9
บทความโดย
สมพจน์ พัดสุวรรณ AFPT / IP
BMK Wealth Management "เคียงข้างทุกความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน"