หนี้สินท่วมหัว เอาตัวให้รอดอย่างไร

256 จำนวนผู้เข้าชม  | 

หนี้สินท่วมหัว เอาตัวให้รอดอย่างไร

หนี้สินท่วมหัว เอาตัวให้รอดอย่างไร เพื่อผ่านวิกฤติโควิท-19 ไปด้วยกัน

หลายๆ คนคงตกอยู่ในภาวะเดียวกันในช่วงนี้ ที่มีหนี้สินท่วมไปหมด ไหนจะหนี้รถยนต์ หนี้บ้าน หนี้คอนโด หนี้บัตรเครดิต ไม่พอยังพ่วงด้วยหนี้นอกระบบอีกต่างหาก แล้วเราในฐานะปุถุชนคนธรรมดา จะจัดการมันอย่างไร ในขณะที่รายได้หดหาย

ได้เวลามานั่งลิสต์รายการหนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่ จัดลำดับขึ้นโดยเริ่มต้นจากหนี้ก้อนของดอกเบี้ยที่แพงที่สุด เช่น หนี้นอกระบบ หนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ หนี้บ้าน เป็นต้น แล้วดูจำนวนเงินในแต่ละก้อนที่เราเป็นหนี้อยู่ ให้แบ่งเป็นเงินต้น และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายแต่ละเดือน และภาระหนี้ที่ยังคงค้างอยู่ แบ่งออกมาให้ชัด แล้วตั้งสติเคลียร์หนี้สินทีละก้อน

ปัจจุบันมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐและเอกชนที่ออกมาช่วยแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบัน โดยให้สามารถขอผ่อนผันหนี้ได้ โดยสามารถหยุดพักชำระหนี้สูงสุดได้ที่ 6 เดือน หนี้ในที่นี้รวมถึง สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อ 

ธุรกิจ SME หาข้อมูลเลือกดูได้เลยกว่า 7 สถาบันการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้สิทธิ์กันนะคะ เพราะครั้งนี้ทุกคน ทุกภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน แต่เรายังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยในแต่ละเดือนอยู่นะคะ พักได้เฉพาะในส่วนของเงินต้น แต่อย่างน้อยภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จะลดน้อยลงไป ช่วยต่อลมหายใจพี่น้องไปได้อีกสัก 6 เดือน

แล้วยังงัยต่อดี ตั้งสติหาอะไรทำกัน อย่าจมอยู่กับความทุกข์นาน ทำอะไรได้ให้ทำ ขายอะไรได้ให้ขาย ถึงเวลาแล้วที่เราอาจจะต้องมาย้อนนั่งคิดในวันนี้ว่า วัตถุหลายๆอย่าง ที่เราซื้อมา สร้างมา ที่มาพร้อมกับภาระหนี้ มันไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลย มันล้วนเกิดขึ้นจากความต้องการของเราในอดีต หลายๆอย่างที่เราก่อหนี้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ บัตรเครดิตจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่ไม่จำเป็น มันอาจจะเกินตัว เกินกำลังของเราไป เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องการแค่ปัจจัย 4 จริงๆ ในการดำรงชีวิต วิกฤติครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า เงินออมเป็นสิ่งจำเป็น หากใครไม่มีหนี้ในช่วงนี้ ถือเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ ค่ะ หลายๆคนมาเข้าใจลึกซึ้งก็วันนี้ที่โควิท 19 นี่แหล่ะ

สังคมหลังจากนี้จะสวยงามมากขึ้น เพราะหลังวิกฤติจะมีฟ้าหลังฝนเสมอ คำเหล่านี้น่าจะกลับมาสู่สังคม “Small is beautiful” และ “Make Life simple” พร้อมกับนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำรงชีวิต ดำเนินธุรกิจ ด้วย “ความมีเหตุมีผล ความพอประมาณ" และ "มีภูมิคุ้มกันที่ดี” ได้เวลาหันมามองตัวเองกันอย่างจริงจังแล้ว พร้อมใช้ชีวิตและทำงานให้เป็นไปตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ชีวิตในวันข้างหน้า มีความสุขมากขึ้น และเพื่อความยั่งยืนและสวยงามต่อตัวเอง ธุรกิจ สังคม ประเทศชาติและโลกใบนี้จนเกิดเป็น Eco-System ที่สมดุลระหว่างธรรมชาติและมนุษยชาติได้อย่างลงตัว


บทความโดย

ดร.สกา​ เวชมงคล​กร, IP / CFP®

BMK Wealth Management "เคียงข้างทุกความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน"

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้